หลังจากที่คราวที่แล้วผมได้ถามค้างไว้ถึง ROA และ ROE เพื่อนๆได้ทำการบ้านกันบ้างอ่ะเปล่า? สาเหตุที่ผมอยากให้เพื่อนๆลองหากันดู เพราะคำเหล่านี้เป็นศัพท์พื้นฐานที่เพื่อนๆควรรู้ไว้ และเมื่อเพื่อนๆหาเป็น ต่อไปเพื่อนๆก็สามารถหาความรู้เองได้ครับ ซึ่งผมไม่สามารถแนะนำเพื่อนๆได้ทุกอย่างครับ เพราะผมเองก็ลองเล่นตามที่อ่านมา ผมก็ยังคงได้กำไรดี แต่ผมก็ไม่หยุดที่จะหาความรู้เพิ่มเติมนะครับ ยิ่งเพื่อนๆศึกษากันก่อนก็ยิ่งได้เปรียบครับ
งั้นถึงคราวผมเฉลยให้เพื่อนๆเลยก็แล้วกัน ROA นั้นย่อมากจาก Return of Asset เป็นค่าทำเอาไว้บอกว่าบริษัทที่เราสนใจนั้นมีความสามารถในการทำกำไรได้เท่าไร เค้าบอกว่าค่าที่ดีควรอยู่ที่ 7-10% ต่อเนื่องหลายปี อันนี้ก็อยู่ที่เพื่อนๆเลยครับว่าอยากให้ ROA สักเท่าไหร่ :)
ส่วน ROE หรือ Return of Equity คือตัวเลขที่บ่งบอกความสามารถในการลงทุนว่าผู้บริหารนั้นนำเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นแล้วได้ผลกำไรเท่าไร เพราะฉะนั้นยิ่งสูงก็ยิ่งดีครับ แต่ถ้าสูงมากไป ก็สามารถทำให้เกิดศัตรูทางการค้าได้ครับ เพราะกำไรดีใครๆก็อยากทำ จึงอาจทำให้เกิดการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดครับ เหมือนสาหร่ายเถ้าแก่น้อย นั่นแหละครับ (ตอนนี้มีไม่รู้กี่ยี่ห้อให้เลือกกันเลย) แล้วค่าที่ดีควรอยู่ที่เท่าไหร่กันหล่ะ อันนี้หนังสือแนะนำว่าให้อยู่ที่ 12-15% ต่อเนื่องหลายปีครับ
Blog หน้าผมจะสอนเพื่อนๆถึงการอ่าน "งบกระแสเงินสด" กันครับ เรามาลองดูกันว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเราอย่างไร? งบกระแสเงินสดที่ผมจะพูดในคราวหน้าจะประกอบด้วย
- เงินสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน
- เงินสุทธิจากกิจกรรมลงทุน
- เงินสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน
เอาไว้ Blog หน้าผมจะมาอธิบายให้ฟังกันครับว่าสามสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างไร ทำให้เรารู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทนั้นบ้าง ส่วนตอนนี้ผมอยากให้เพื่อนๆลองดู www.settrade.com ลองหาหุ้นที่เพื่อนๆเล็งไว้ว่าน่าลงทุนสัก 5 ตัว อาจจะใช้วิธีดูตามที่ผมได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้นะครับ
สุดท้ายถ้าไม่มีหนังสือ อ่านงบการเงิน ไม่ยาก โดย คุณธวัชชัย ธูปอ่อน ผมก็ไม่มีความรู้มาเขียนให้ผู้อ่านกันครับ ต้องขอขอบคุณเค้าไว้ ณ ที่นี้ด้วย
สุดท้ายถ้าไม่มีหนังสือ อ่านงบการเงิน ไม่ยาก โดย คุณธวัชชัย ธูปอ่อน ผมก็ไม่มีความรู้มาเขียนให้ผู้อ่านกันครับ ต้องขอขอบคุณเค้าไว้ ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน หัวข้อก่อนหน้านี้ คลิกที่นี่ เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น