เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด (4)

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556



       วันนี้ผมจะเริ่มด้วยแง่คิดที่ผมได้จากหนังสือเล่มเดิมครับ อันที่จริงผมเพิ่งจะอ่านจบวันนี้เอง แต่ผมได้ทำการลิสต์รายการคำพูดของคิมรันโด(นักเขียนหนังสือเล่มนี้) ที่ผมคิดว่าน่าสนใจเอามาแบ่งปันเพื่อนๆกันครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆสนใจ อยากอ่านเพิ่มเติม (ผมว่าตัวอย่างที่เค้ายกในหนังสือเล่มนี้เห็นภาพดีนะ มีอีกหลายๆ อย่างเลยที่ผมจะไม่ได้เขียนในนี้ เพราะอยากให้เพื่อนๆซื้อมาไว้ติดตัว อ่านได้หลายๆรอบ เพราะอ่านรอบสองรอบสามทำให้เราได้อะไรอีกมากมาย หน้าที่ของ Blog ผมคือทำให้เพื่อนๆ มีความสนใจที่อยากจะหาความรู้เข้าใส่ตัว แค่นั้นครับ ;) ) ซึ่งยังมีเนื้อหาที่สอนเรื่องการสมัครงานยังไงให้บริษัทรับเรา? (อันนี้อยากรู้ต้องไปหาซื้ออ่านเอานะครับ อันนี้ผมจะไม่เขียนในบล๊อคนี้ เพราะอยากให้เพื่อนๆอุดหนุนนักเขียนกันครับ) การจัดการเวลายังไงให้มีประสิทธิภาพ? และอื่นๆอีกมากมายที่มีประโยชน์ ซึ่งผมจะเขียนบางแง่คิดเอาไว้ให้ในบล๊อคหน้าครับ แต่ผมจะไม่เขียนทั้งหมดนะ อยากรู้ต้องหาอ่านเองครับ :) ถ้างั้นเรามาเริ่มต้นด้วยประโยคนี้เลยครับ

       "การหลงลืมความฝันของตัวเองน่ากลัวเสียยิ่งกว่าการที่ไม่สามารถทำให้ฝันนั้นเป็นจริงได้ร้อยเท่า" อันนี้ผมเห็นด้วยกับเขาอย่างยิ่งเลยครับ เหมือนที่ผมเคยบอกเพื่อนๆไปนั่นแหละครับ ผู้แพ้ (Loser) คือคนที่บอกตัวเองว่ายอมแพ้ แต่คนที่แพ้ตอนนี้แต่ใจเขาไม่ยอมแพ้ นั่นไม่ใช่ผู้แพ้ครับ เพราะใครจะรู้ วันนึงเค้าอาจจะเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ ส่วนผู้ชนะสักวันนึงก็อาจจะกลายเป็นผู้แพ้ก็ เหมือนนิทานกระต่ายกับเต่านั่นแหละครับ ที่ไม่มีใครคิดว่ากระต่ายจะแพ้และเต่าจะชนะได้ จงอย่าลืมความฝันครับ "อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้พยายามให้ถึงที่สุดแล้ว" ลองเริ่มดู ทำทีละนิดเรื่อยๆ ยิ่งเราทำเร็วก็ยิ่งประสบผลสำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้นครับ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ผมจะยกตัวต่อไปเลยครับ

           "การฝึกต่างๆเริ่มต้นจาก 'วันนี้' ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ แต่ต้องลงมือทำในวันนี้ทีละเล็กทีละน้อย" คำว่า "พรุ่งนี้" เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองเท่านั้น อันนี้ผมก็เห็นด้วยกับเขาอีก ท่องจนขึ้นใจเลย ถ้าเปรียบกับสุภาษิตไทยก็คงประมาณว่า "ผลัดวันประกันพรุ่ง" นั่นแหละครับ ถ้าเราบอกตัวเองว่า "ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้" เหมือนเราปลอบใจตัวเองนั่นแหละครับ ถ้าเพื่อนๆอยากเป็นผู้ชนะ อยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนๆต้องเริ่มทำตอนนี้ ต้องเป็นคนที่ Active ครับ ผมก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง แต่ที่ผมบอกเพื่อนๆลองกลับไปคิดดูว่ามันดีกับตัวเพื่อนๆเองรึเปล่า ถ้าไม่?ก็ไม่ต้องทำก็ได้ครับ แต่ที่ผมแนะนำเพื่อนๆทั้งหมดมานี้ เพราะอยากให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จกันทุกคน มีความภาคภุมิใจว่า "เราเองก็ทำได้ เราไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย" สำหรับเพื่อนๆที่อยากจะเก่งหลายๆด้าน อยากรอบรู้ผมขอแนะนำประโยคนี้เลยครับ

           "จงอ่านหนังสือพิมพ์เพราะหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ราคาถูกที่สุด มีข้อมูล "ที่ต้องรู้" และข้อมูลที่คุณ "ต้องการ" อย่างครบครันพอดี" อันนี้ผมก็เห็นด้วยอีก เพราะคนที่ผมรู้จักสมัยนี้ อ่านข่าวกันน้อยมาก แทบจะไม่ดูเลยก็ว่าได้ บางคนก็บอกว่าเบื่อการเมือง บอกคนก็บอกว่าไม่มีเวลา (เอาไว้ Blog หน้าผมจะแนะนำวิธีการจัดการเวลาให้ครับ) แต่หนังสือพิมพ์ ไม่ได้มีแค่ข่าวการเมืองนิครับ มีทั้งที่ให้ความรู้และข่าวให้เราติดตามสถานการณ์โลกอีกด้วย ซึ่งผมลงทุนหุ้นผมก็จำเป็นต้องรู้ข่าวพวกนี้เอาไว้บ้าง ว่าโลกเราไปถึงไหนกันแล้ว คนที่ลงทุนหุ้นโดยไม่รู้ข่าวสารเลย ก็เหมือนกับ "กบในกะลา" นั่นแหละครับ เชื่อผมครับ ว่างๆลองหยิบมันมาอ่านบ้าง เจ้าหนังสือพิมพ์เนี่ย ถ้ามันไม่ดีจริงคงไม่ทำมาถึงทุกวันนี้หรอกครับ

สำหรับเพื่อนที่ยังไม่เคยอ่าน Blog ของหนังสือเล่มนี้ ที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้านี้ คลิกที่นี่ ได้เลยครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น