เคยได้ยินเรื่อง การเรียนรู้ผ่านการเล่นเกมรึเปล่า? ผมเองก็เพิ่งสนใจ หลังจากที่อ่านหนังสือชุดพ่อรวย Robert เค้าโฆษณาไว้เยอะเลยถึงเกม Cashflow 101 และ Cashflow 202
ผมก็เลยซื้อลองมาเล่นกับแฟนผมดู ซึ่งมันก้อจริงอย่างเค้าพูด คุณเรียนรู้ได้ไวจากมันจริงๆ เพราะอะไรหรอครับ อันนี้ Robert ไม่ได้บอก แค่บอกบอกว่ามันดีกว่าแค่นั้น อันนี้ผมคิดเอง คิดได้ตอนพี่ที่ทำงานเค้าเห็นผมชอบอ่านหนังสือ แกเลยเตือนผมอยู่ประโยคนึง "หนังสืออ่ะ ถ้าเรานำความรู้ที่ได้จากมันไปใช้จริง มันคงจะมีประโยชน์มากๆเลย พี่เห็นหลายคนอ่านอย่างเดียวแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมานะ" ผมลองมานั่งคิดๆดูมันก้อจริงอย่างพี่เค้าว่าจริงๆ การอ่านหนังสือชุดพ่อรวยเหมือนกับการเรียนภาคทฤษฎี ส่วนเกมของเค้าเหมือนเราทำ ภาคปฏิบัติ เพราะเกมของเค้านั้นจะตรงกับชีวิตจริงของเรามาก มีการจ่ายภาษี กู้หนี้ยืมสิน ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือ Doodad card มีการซื้อหุ้น ซื้อบ้านปล่อยให้เช่า และยังให้เราจัดงบการเงินของเราเองอีกด้วย ทาง Robert เค้ายังบอกอีกว่าเค้าได้ไอเดียเกมนี้มาจากเกมเศรษฐี หรือ monopoly ซึงผมก็ว่ามันก้อมีส่วนที่คล้ายนะ แต่ที่ต่างกันคือ คุณต้องแข่งกับตัวเอง ให้ออกจากสนามแข่งหนู มันคืออะไรเอาไว้ผมมาอธิบายเพิ่มเติมใน blog หน้านะครับ ซึ่งการแข่งกับตัวเองช่วยให้ผมไม่ต้องผิดใจกับแฟน ไม่เหมือนเกมเศรษฐีที่เวลาแฟนลงที่ดินของผมต้องเสียตังค์มาก บางทีผมก้อไม่กล้าคิดตังค์เลยนะ จริงจังมากกกก ทำอย่างกับเงินจริง 555+ ลองหาเกมมาเล่นดูครับ สนุกแถมยังได้ความรู้อีกด้วย แต่เกมของ Robert เค้าแพงจิงๆอ่ะจากใจเลยนะ แถมต้องเสียภาษีอีกหลายพันด้วย กระเป๋าแฟบเลยเดือนนั้น ผมเห็นว่าคนไทยเอาเกมนี้มาแปลแล้วขายเองอยู่นะ ที่ Rich Dad Thai (ดูเค้าจริงจังกันมากนะเนี่ย - -*) แต่ผมชอบแบบ original ที่เป็นภาษาอังกฤษมากกว่า แต่ตอนแรกแทบเล่นไม่เป็นเพราะอ่านภาษาอังกฤษแล้วไม่เข้าใจ 55+ แต่เพราะอยากเล่นก็เลยทำให้ต้องพยายามกันหน่อย เห็นมั้ยครับ ได้ฝึกทั้งความรู้ด้านการเงิน และภาษาอังกฤษ ไปพร้อทๆกัน คุ้มจะตาย!!
ผมก็เลยซื้อลองมาเล่นกับแฟนผมดู ซึ่งมันก้อจริงอย่างเค้าพูด คุณเรียนรู้ได้ไวจากมันจริงๆ เพราะอะไรหรอครับ อันนี้ Robert ไม่ได้บอก แค่บอกบอกว่ามันดีกว่าแค่นั้น อันนี้ผมคิดเอง คิดได้ตอนพี่ที่ทำงานเค้าเห็นผมชอบอ่านหนังสือ แกเลยเตือนผมอยู่ประโยคนึง "หนังสืออ่ะ ถ้าเรานำความรู้ที่ได้จากมันไปใช้จริง มันคงจะมีประโยชน์มากๆเลย พี่เห็นหลายคนอ่านอย่างเดียวแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมานะ" ผมลองมานั่งคิดๆดูมันก้อจริงอย่างพี่เค้าว่าจริงๆ การอ่านหนังสือชุดพ่อรวยเหมือนกับการเรียนภาคทฤษฎี ส่วนเกมของเค้าเหมือนเราทำ ภาคปฏิบัติ เพราะเกมของเค้านั้นจะตรงกับชีวิตจริงของเรามาก มีการจ่ายภาษี กู้หนี้ยืมสิน ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือ Doodad card มีการซื้อหุ้น ซื้อบ้านปล่อยให้เช่า และยังให้เราจัดงบการเงินของเราเองอีกด้วย ทาง Robert เค้ายังบอกอีกว่าเค้าได้ไอเดียเกมนี้มาจากเกมเศรษฐี หรือ monopoly ซึงผมก็ว่ามันก้อมีส่วนที่คล้ายนะ แต่ที่ต่างกันคือ คุณต้องแข่งกับตัวเอง ให้ออกจากสนามแข่งหนู มันคืออะไรเอาไว้ผมมาอธิบายเพิ่มเติมใน blog หน้านะครับ ซึ่งการแข่งกับตัวเองช่วยให้ผมไม่ต้องผิดใจกับแฟน ไม่เหมือนเกมเศรษฐีที่เวลาแฟนลงที่ดินของผมต้องเสียตังค์มาก บางทีผมก้อไม่กล้าคิดตังค์เลยนะ จริงจังมากกกก ทำอย่างกับเงินจริง 555+ ลองหาเกมมาเล่นดูครับ สนุกแถมยังได้ความรู้อีกด้วย แต่เกมของ Robert เค้าแพงจิงๆอ่ะจากใจเลยนะ แถมต้องเสียภาษีอีกหลายพันด้วย กระเป๋าแฟบเลยเดือนนั้น ผมเห็นว่าคนไทยเอาเกมนี้มาแปลแล้วขายเองอยู่นะ ที่ Rich Dad Thai (ดูเค้าจริงจังกันมากนะเนี่ย - -*) แต่ผมชอบแบบ original ที่เป็นภาษาอังกฤษมากกว่า แต่ตอนแรกแทบเล่นไม่เป็นเพราะอ่านภาษาอังกฤษแล้วไม่เข้าใจ 55+ แต่เพราะอยากเล่นก็เลยทำให้ต้องพยายามกันหน่อย เห็นมั้ยครับ ได้ฝึกทั้งความรู้ด้านการเงิน และภาษาอังกฤษ ไปพร้อทๆกัน คุ้มจะตาย!!
สุดท้ายใครที่เคยเล่นแล้วก็นำความคิดเห็นมาแบ่งปันได้นะครับ เช่นเคยรับฟังทุกความคิดเห็นเสมอครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น