'ว่ากันว่าครั้งหนึ่ง อเล็กซานเดอร์ถามอริสโตเติลว่า "หนึ่งนั้นมากเพียงใด" เป็นคำถามที่ง่ายมาก แต่เด็กชายคนนี้ไม่ได้ถามเล่นๆ อริสโตเติลจึงคิดหนักว่า ควรจะตอบอย่างไรดี คำตอบนั้นควรเป็นในเชิงปรัชญา หรือเชิงคณิตศาสตร์ หรือเชิงเทววิทยา หรือว่าเป็นศาสตร์ด้านละครเวที
"แล้วพรุ่งนี้ข้าจะให้คำตอบ" อาจารย์ตอบ
วันต่อมา อริสโตเติลให้คำตอบว่า "หนึ่งอาจจะเป็นอะได้มากมายมหาศาล" หรืออีกนัยหนึ่ง คนๆหนึ่งอาจสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มหาศาล โดยเฉพาะเมื่อบุคคลนั้นเป็นผู้นำ! และในกรณีของอเล็กซานเดอร์ บุคคลหนึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มหาศาลจริงๆ เพราะก่อนอายุครบ 30 ปี อเล็กซานเดอร์สามารถพิชิตดินแดนโลกตะวันตกได้ทั้งหมด'
เรื่องราวทั้งหมดเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าของ John C. Maxwell ในหนังสือ "ภาวะผู้นำ 5 ระดับ" (The 5 Levels of Leadership) หลายคนอาจจะรู้จักเขา หรือเคยเห็นหนังสือเค้าผ่านตามาบ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก เค้าคือผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ นอกจากเขียนหนังสือแล้วเขายังเป็นวิทยากรอีกด้วย และจะบรรยายให้แก่ผู้นำองค์กรต่างๆ เช่นกลุ่มบริษัท Fortune 500, รัฐบาลของประเทศต่างๆ หรือแม้กระทั่งองค์การสหประชาชาติ อยากรู้จักเขาเพื่อนๆสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Google เลยครับ
ภาวะผู้นำ 5 ระดับ คืออะไร? คืออย่างงี้ครับ John Maxwell เค้าได้แบ่งผู้นำไว้ออกเป็น 5 ระดับครับ ผมว่าเพื่อนๆคงได้เจอผู้นำทั้ง 4 ระดับ แต่ระดับที่ 5 นี้หาได้ยากนิดนึง ซึ่งแต่ละระดับเค้าอธิบายไว้ดังนี้ครับ
ระดับที่ 1 ตำแหน่งหน้าที่ คือขั้นแรกของผู้นำทั่วๆไปครับ เช่น หัวหน้าห้อง ผู้จัดการที่เพิ่งได้รับตำแหน่งมาให้เป็นหัวหน้า สั้นๆคือ เป็นหัวหน้าเพราะตำแหน่งครับ ซึ่งมันก็มีข้อดีครับ เพราะสำหรับบางคนอย่างที่ John Maxwell เล่าถึง โค้ชจอห์น วูดเดน (เขาคือผู้ฝึกสอนบาสเกตบอลที่ได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมของ NCAA อันนี้คนที่ชอบดูบาสคงรู้จักกันดีครับ ใครยังไม่ทราบลอง Google เลยครับ อยากรู้ก็หาเลยครับ เพราะมันไม่ได้มาบ่อยๆ :)) เขาคือคนที่ John Maxwell ยกให้เป็นผู้นำที่มีทั้ง 5 ระดับ แล้วโค้ชวูดเดนเค้าใช้ระดับหนึ่งยังไงรู้มั้ยครับ เค้าใช้กับนักบาสคนนึงซึ่งมีพรสวรรค์มาก แต่เค้าชอบเล่นในแนวของตัวเอง ไม่ค่อยฟังโค้ช ถึงแม้เก่งเท่าไรก็ตามแต่เมื่อเขาลงก็มักจะทำให้ทีมแพ้ทุกที (ผมนึกถึง มาริโอ บาโลเทรี่ เลยครับ ผมชอบเค้านะแนวดีๆ 55+)
เพราะฉะนั้นโค้ชวูดเด้นจึงให้เขานั่งที่ม้านั่งอย่างเดียวเวลาแข่ง จนนักบาสทนไม่ไหวถึงถามโค้ชวูดเดนตรงๆ ว่า "ทำไมผมลงเล่นมากกว่านี้ไม่ได้ โค้ชก็รู้ว่าผมเป็นนักบาสที่เก่งที่สุดในทีม!" โค้ชวูดเดนตอบว่า "ใช่ ซิดนีย์ เธอเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในทีม แต่ทีมเล่นได้ไม่ดีที่สุดตอนที่เธอลงสนาม" เห็นมั้ยครับ บางทีเราก็ต้องใช้ระดับที่ 1 ให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เราไปใช้เพื่อกดดันคนอื่นเค้านะ อันนั้นไม่ดีเลยครับ
ระดับที่ 2 การยอมรับ คือระดับที่ผู้คนยอมทำตาม เพราะว่าอยากทำ อันนี้ผมว่าเพื่อนๆก็พัฒนาถึงระดับนี้ได้ครับ แค่จริงใจและรับฟังลูกน้องครับ อยากรู้เพิ่มลองซื้อมาอ่านกันได้ครับ ผมคิดว่าอันนี้ไม่มีอะไรมากเลยจะไม่กล่าวเยอะครับ
ระดับที่ 3 การสร้างผลงาน ผู้นำที่เก่งได้ต้องมีผลงานด้วย ไม่ใช่ทำอะไรไม่เป็นไม่มีผลงานเลย แข่งกี่ครั้งพาทีมแพ้หมด ถ้าจะให้คนอื่นยอมรับหรือตามเรา เราต้องมีผลงานด้วยจริงไหมครับ common sense เลย
ระดับที่ 4 การพัฒนาคน อันนี้ผมเคยเจอกับอาจารย์มหาวิทยาลัยผมเลย คนที่จะเป็นผู้นำระดับนี้ได้ ต้องรู้จักทำงานเป็นทีมครับ แล้วรู้จักปั้นคนมาช่วยงานเราครับ เพราะถ้าเราทำหมดทุกอย่างเหนื่อยตายเลย จริงไหมครับ
ระดับที่ 5 คือระดับสูงสุด ผู้คนยอมทำตาม เพราะตัวคุณและสิ่งที่คุณเป็นตัวแทน(คือเมื่อเราออกจากที่ทำงานไปแล้ว สิ่งที่เราสร้างไว้ให้ก็ตัวคงสืบต่อไปอ่าครับ) อันนี้ผมเคยพบแล้วกับคนใกล้ตัวเลยครับ อาจารย์ที่ปรึกษาผมเอง (ผมขอไม่เอ่ยชื่อนะ เดี๋ยวไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวอาจารย์เค้า) หรืออีกคนเช่น แจ๊ค เวลล์ (Jack Welch) อดีตผู้บริหารของ GE Electric คนนี้ดังมากครับ ถ้าใครยังไม่รู้จัก อยากให้ลองหาดูว่าเค้าคือใคร ทำไมเขาถึงดัง (ดังตลอดกาลเลยนะ) คนนี้พลาดไม่ได้จริงๆ เอาไว้คราวหน้าผมจะรีวิวหนังสือเล่มนึงที่เค้าเล่าถึง แจ๊ค เวลล์ให้ครับ แต่ตอนนี้อยากให้เพื่อนๆลองหาเองก่อนครับ เพราะผมพิมพ์ไม่ทันครับ Blog นึงผมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ในการคิดและเรียบเรียงให้เพื่อนๆครับ แต่สัญญาว่าจะอัพให้เรื่อยๆ ทุกวันครับ ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่เพื่อนๆอ่านทุกวัน ผมคิดว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ ถ้าอยากแบ่งปันเนื้อหาที่ผมเขียน เพื่อนๆสามารถแชร์ หรือ copy ไปลงเว็บตัวเองก็ได้นะครับ แต่ใส่เครดิตให้นิดนึงก็ดีน้า จะได้มีกำลังใจทำต่ออ่า แหะๆ ^^"
สิ่งที่อยากเน้นอีกเรื่องนึงนะครับ John Maxwell บอกว่าไม่ใช่ว่าเพื่อนๆก้าวจากระดับ 3 ไป 4 แล้วจะลืมทำระดับ 3, 2, 1 ไปได้นะ เหมือนอ่านหนังสือบทสองแล้วลืมบทหนึ่งอ่ะ อันนี้ไม่แนะนำ ผมก็เป็นบ่อย แหะๆ และเมื่อถึงระดับที่ 5 แล้วไม่ใช่จุดสิ้นสุดนะครับ ที่ระดับ 5 มันยากเพราะต้องทำต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดนี่แหละครับ เหมือนการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นแหละครับ จึงไม่อยากให้เพื่อนๆรีบเกิน ค่อยๆทำแต่ทำทุกวันครับ เชื่อผม ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น